เปลี่ยนแบตเตอรี่ups
09 Dec 2021

วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าง่ายๆ

เคยสงสัยหรือไม่ว่า การใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าหรือเครื่อง UPS นั้นต้องมีระยะเวลานานขนาดไหน จนถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง วันนี้ Syndome จะมาตอบคำถามให้คุณเอง พร้อมทั้ง มาเล่าวิธีการเลือกซื้อแบตเตอรี่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน ทั้งง่ายและประหยัดทรัพย์ในกระเป๋าสตางค์! เราจะมาเริ่มกับด้วยวิธีการตรวจสอบสภาพของเครื่องสำรองไฟฟ้ากันก่อน ว่าเครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณ ยังมีสภาพดี สามารถใช้งานได้อยู่หรือเปล่า ตามไปอ่านกันได้เลย 

 

วิธีตรวจสอบแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า

เมื่อคุณใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าไปเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่ง ราว ๆ 1-3 ปี มันอาจถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว แต่ก่อนอื่น ทางซินโดมขอแนะนำให้ลองตรวจสอบเสียก่อน ว่าแบตเตอรี่ยังคงจุไฟได้ดีหรือไม่ หรือ เริ่มเสื่อมสภาพจนต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่แล้ว 

วิธีตรวจสอบนั้นง่ายมากคือ ให้คุณจำลองสถานการณ์ เหมือนว่าไฟฟ้าดับ โดย ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังเครื่องสำรองไฟฟ้าออก หรือ ลองดึงปลั๊กเครื่องสำรองไฟฟ้าออก แล้วตรวจสอบดูว่า เครื่องสำรองไฟฟ้ายังคงจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบอยู่กับเครื่องสำรองไฟหรือไม่ 

หากเครื่องสำรองไฟฟ้ายังคงจ่ายไฟฟ้าอยู่ ให้ตรวจสอบว่า เครื่องสำรองไฟฟ้ายังคงจ่ายกระแสไฟฟ้าได้นานเท่าเดิมหรือไม่ 

หากเครื่องสำรองไฟฟ้าจ่ายไฟฟ้าได้และยังคงสำรองไฟได้นานเท่าเดิม นั่นแสดงว่า แบตเตอรี่ยังคงสภาพดี สามารถใช้งานต่อไปได้อีก แต่หากว่า เครื่องสำรองไฟฟ้าไม่อาจจ่ายไฟได้เลย หรือจ่ายไฟฟ้าได้นานน้อยลง แสดงว่า แบตเตอรี่ในเครื่องสำรองไฟฟ้าเสื่อมสภาพแล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่โดยด่วน  

 

แกะแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า

 

วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า 

  1. ปิดเครื่องสำรองไฟฟ้าและถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อย
  2. ถอดแบตเตอรี่ตัวเก่าออก ซึ่งเครื่องสำรองไฟฟ้ารุ่นใหม่ มักทำฝาเลื่อนเปิด-ปิด เอาไว้ที่ฐานเครื่อง เพื่อความสะดวก แต่หากเครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณเป็นรุ่นเก่า คุณอาจต้องไขนอตที่ฐานตัวเครื่องเพื่อแกะฝาครอบเครื่องออก 
  3. ถอดสายไฟทั้ง 2 เส้นที่ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ออก อย่าลืมจำว่า สายไฟสีไหนเชื่อมต่ออยู่กับขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) เพราะคุณต้องต่อแบตเตอรี่ใหม่ให้ถูกขั้ว  
  4. หากแบตเตอรี่ถูกยึดเอาไว้ด้วยนอต ให้ไขนอตออกเสียก่อน แล้วจึงเอาแบตเตอรี่ตัวเก่าออก เครื่องสำรองไฟฟ้าบางรุ่น อาจไม่ได้ยึดแบตเตอรี่ด้วยนอต ดังนั้น คุณสามารถแกะแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่องสำรองไฟฟ้าได้เลย
  5. ใส่แบตเตอรี่ตัวใหม่เข้าไป แล้วเสียบสายขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) ให้ถูกต้องตามเดิม จากนั้นไขนอตยึดแบตเตอรี่ให้แน่น (ในกรณีที่เป็นรุ่นมีนอตยึด) 
  6. ดันถาดใส่แบตเตอรี่กลับที่เดิม หรือปิดฝาครอบกล่อง แล้วไขนอตปิดให้แน่น
  7. เปิดเครื่องสำรองไฟฟ้า และทำการตรวจสอบการใช้งาน หลังจากนั้นคุณก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

 

คุณจะสังเกตได้ว่า วิธีที่ทางซินโดมเสนอไปนั้น เป็นวิธีที่ง่ายมาก คุณสามารถทำตามได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องโทรเรียกช่าง เข้ามาซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เลย หรือหากว่าคุณทดลองเปลี่ยนแล้ว ยังเกิดปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ หรือมีปัญหาอื่น ๆ คุณสามารถติดต่อทางซินโดม เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือแจ้งให้ช่างเค้าไปดูแลได้ทั้งทาง Facebook Fanpage หรือลงทะเบียนแจ้งซ่อมออนไลน์ได้เช่นกัน

 

 

วิธีดูแลแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า 

หลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อย คุณควรดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟฟ้าให้ถูกต้อง เพื่อให้รักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม มาดูวิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่กัน ดังนี้

  1. ตั้งเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทดี อุณหภูมิไม่ร้อน ไม่ชื้นและไม่มีฝุ่นละอองเยอะจนเกินไป เพื่อให้เครื่องระบายความร้อนได้ดี
  2. ไม่ควรใช้เครื่องสำรองไฟฟ้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟมากหรืออุปกรณ์ประเภทเครื่องทำความร้อนต่าง ๆ 
  3. หมั่นตรวจสอบแบตเตอรี่ ว่ายังคงสภาพมีดีอยู่หรือไม่ หากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ควรเปลี่ยนทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว  

 

เคล็ดลับในการเลือกซื้อแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า 

นอกจากการเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้าที่หลายคนกังวลแล้ว  ยังมีอีกเรื่องที่หลาย ๆ คนยังสงสัยอยู่ นั่นคือ การเลือกซื้อแบตเตอรี่ของเครื่องสำรองไฟฟ้า เช่นว่า ไม่รู้ว่าต้องเลือกแบบไหน ต้องใช้ขนาดกำลังไฟเท่าไร หรือไม่รู้ว่าต้องใช้แบตเตอรี่รุ่นไหนที่จะช่วยเรื่องเซฟตี้มากกว่ากัน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้ทาง Syndome มีเคล็ดลับการเลือกแบตฯ ที่ง่ายที่สุดมาฝากกัน นั่นคือ

“ดูข้อมูลจากแบตเตอรี่ลูกเดิม” 

ถอดแบตเตอรี่ตัวเก่าออกมาดูข้อมูลที่อยู่บนตัวแบตเตอรี่นั้น ๆ ซึ่งบอกทั้งยี่ห้อแบตเตอรี่ รุ่น ความจุ และค่าแรงดันไฟฟ้า แล้วจึงใช้ข้อมูลนั้นไปซื้อแบตเตอรี่ตัวใหม่ 

ตัวเลขบนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า

 

ยกตัวอย่าง จากรูปด้านบน สิ่งที่คุณต้องดูคือตัวเลขบรรทัดแรกด้านขวามือ ‘LP-12-7.0 (7.0Ah 12V)’ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะบอกข้อมูล ดังนี้

  1. LP-12-7.0 คือ รุ่นของแบตเตอรี่ 
  2. 7.0Ah คือ ความจุของแบตเตอรี่
  3. 12V คือ ค่าแรงดันไฟฟ้า

 

คุณต้องเลือกแบตเตอรี่สำรองจากข้อมูลค่าแรงดันไฟฟ้า (V) เท่ากับแบตเตอรี่รุ่นเดิม ไม่เช่นนั้นจะทำให้เครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณขัดข้องได ส่วนขนาดของความจุ (Ah) จะเกี่ยวข้องกับระยะเวลาที่สำรองไฟได้ แต่ทั้งนี้หากคุณเลือกขนาดความจุที่เยอะมากกว่าเดิม ขนาดของตัวแบตเตอรี่ก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย นั่นหมายความว่ามันอาจใส่เข้าไปในเครื่องสำรองไฟฟ้าตัวเดิมของคุณไม่ได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุ (Ah) เท่าเดิมจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลานำกลับไปเปลี่ยน และไม่หงุดหงิดใจอีกด้วย 

หรือจะเลือกซื้อตามหมายเลขรุ่นแบตเตอรี่เลยก็ได้ เพราะจะได้แบตเตอรี่ที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าและความจุเท่าตัวเดิม และขนาดของแบตเตอรี่ก็เท่าเดิมด้วยเช่นกัน ใส่แบตเตอรี่เข้าไปในเครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณได้อย่างแน่นอน

และอีกสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าคือ การเลือกแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของเครื่องสำรองไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่น ๆ อย่างเช่น Syndome ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จำหน่ายเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) และแบตเตอรี่ได้ที่มาตรฐาน มีความปลอดภัย คุณภาพดี และราคาคุ้มค่า ที่คนไว้วางใจเลือกใช้มาตลอด